Banana's Comment !
BMW G650 Xmoto คันที่เราทดลองขี่กันในครั้งนี้เป็นรถเดโมจาก BMW Thailand ที่อยู่ในสภาพที่จัดว่า "สด" พอสมควร เพราะตัวรถผ่านการใช้งานมาน้อยมาก อุปกรณ์ทุกอย่างบนตัวรถอยู่ในสภาพที่เหมิอนเพิ่งออกจากโรงงาน ซึ่งต้องขอขอบพระคุณ BMW (Thailand) Co.,Ltd. ที่เอื้อเฟื้อรถคันนี้มาให้เราได้ลองขี่ พร้อมทั้ง คุณจักรกฤษณ์ ภูริวัฒนะ จาก BKK Motorcycle Co.,Ltd. ที่อำนวยความสะดวกและแนะนำการใช้อุปกรณ์ต่างๆบนตัวรถอย่างใกล้ชิดตลอดเวลาที่เราทำการทดสอบในสนาม BRC.

ทันทีที่สายตาสัมผัสกับตัวรถ BMW G650 Xmoto ก็รับรู้ได้เลยว่า วันนี้เราเจอของยากเข้าแล้ว เพราะตัวรถอาจจะดูไม่ใหญ่โตอะไรมากนัก แต่ความสูงของเบาะนั่งที่ต้องหย่อนก้นลงไปสัมผัสรถตอนขับขี่มันสูงปรี๊ด และมันก็เป็นจริงอย่างที่คิดในวินาทีแรกที่วาดขาคร่อมตัวรถขึ้นไปเพื่อเตรียมสตาร์ทรถ ทันทีที่ขาขวาคร่อมตัวรถและพยายามจะทิ้งน้ำหนักไปที่ปลายเท้า ก็เจอเข้ากับความว่างเปล่า ต้องขยับแก้มก้นฝั่งซ้ายเลื่อนมาทางด้านขวาของตัวรถเพื่อให้ปลายเท้าขวาแตะถึงพื้นอย่างมั่นคงสำหรับการกดปลายเท้าซ้ายเพื่อเข้าเกียร์เตรียมนำรถออกสู่แทรค

ไรดิ้งโพสิชั่นภายหลังการออกตัวจากจุดหยุดนิ่งกลับแตกต่างจากความรู้สึกยักแย่ยักยันตอนขึ้นรถ เพราะ BMW G650 Xmoto สามารถสร้างรถที่ทำให้ผู้ขับขี่สามารถปรับท่านั่งได้ค่อนข้างหลากหลายจากรูปทรงของเบาะที่เรียวยาว ถังน้ำมันทรงกระเปาะเหมือนรถ Motocross ซึ่งมีพื้นที่ว่างด้านข้างอย่างเหลือเฟือ ส่งผลให้การขยับท่า เปลี่ยนท่าเป็นไปได้ด้วยความสะดวกตามความชอบส่วนตัวของผู้ขับขี่ แฮนเดิ้ลบาร์ทรงปีกนกที่มีองศาไม่สูงมากเหมือนรถ Motocross แท้ๆ ให้สัมผัสขับขี่ที่ผ่อนคลาย แต่แอบบังคับความรู้สึกให้สปอร์ทนิดด้วยระยะความกว้างของแฮนเดิ้ลบาร์ที่อยู่ในระยะกำลังดี สไตล์ของการขี่รถ Super Motard ก็คือการเน้นไปที่ท่าขับขี่ผ่อนคลาย มีระยะฟรีของร่างกายมากกว่ารถทางเรียบประเภทอื่น แต่ต้องพร้อมที่จะเข้าโค้งได้ลึก และมีความสมดุลย์ของตัวรถในเวลาที่ตั้งใจ "กระแทก" คันเร่งช่วงเวลาออกจากโค้งในตำแหน่งที่รถยังไม่ตั้งตรงนัก แฮนเดิ้ลบาร์ขนาดและระยะเช่นนี้ ผมว่า "เหมาะสมที่สุด"

ความนุ่มนิ่มของระบบช่วงล่างที่เป็นสิ่งเชิดหน้าชูตาของค่าย BMW กลับกลายเป็นของแปลกปลอมในทันทีที่มีความอยากจะขับขี่แบบ " บู๊ " เพราะมันกลายเป็นความยวบยาบที่ทำให้เสียเวลามาพะวงขณะที่กำลังจะเปิดคันเร่งออกจากโค้ง แต่มันจะกลายเป็นความสบาย ถ้าเป็นการขับขี่ใช้งานบนถนนปกติ ที่ไม่บู้โลดโผนเหมือนการตั้งใจขยี้มันในสนามมากนัก ส่วนระบบเบรคที่ให้เบรคหน้ามาแบบเดี่ยว ซึ่งเพียงพอต่อการใช้งานสำหรับการหยุดมวลรถที่เคลื่อนที่ด้วยแรงโมเมนตัมโปร่งบางอย่าง G650 Xmoto คันนี้ รวมไปถึงระบบเบรค ABS. ที่ทำงานได้สมบูรณ์แบบตามชื่อชั้นที่เป็นอันดับหนึ่งของระบบเบรคมอเตอร์ไซค์ในโลกใบนี้ และในการทดสอบวันนั้น ผมได้ทดลองปลดระบบการทำงานของ ABS. ออก เพื่อทดสอบสัมผัสที่ได้ นำไปเปรียบเทียบกับช่วงที่เปิดระบบ ABS. ให้ทำงาน ผลที่ได้จากการขับขี่ ต้องยอมรับว่า "ต่าง" กันมากพอสมควร เพราะสไตล์การขี่รถโมตาร์ดที่เน้นการเข้าโค้งให้แคบ แล้วปล่อยล้อหลังให้สไลค์กวาดเปลี่ยนไลน์ ก่อนจะกระแทกคันเร่งในจังหวะที่ล้อหลังใกล้หยุดสไลด์ จำเป็นต้องใช้การควบคุมเบรค คุมคันเร่ง และอาการของรถที่แม่นยำจากสัมผัสผู้ขับขี่ มากกว่าจากการคำนวนของระบบไฟฟ้า ที่ขยัน " จับ -ปล่อย " จานเบรค จนเกิดอาการเสียวบั้นท้ายทุกครั้งที่มันทำงาน

เครื่องยนต์ 652 ซีซี ของ Rotax ที่วางใน G650 Xmoto ยังคงส่งเสียงซู่ซ่าที่เกิดจากระยะเคลียแรนซ์ของชิ้นส่วนที่ "ห่าง" ตามสไตล์ของเครื่องยนต์จากค่ายยุโรป ส่วนเสียงจากปลายท่อไอเสียที่ดีไซน์ขยายขนาดเพื่อเพิ่มวัสดุกรองไอเสียไซส์ใหญ่ยักษ์วนออกฝั่งซ้ายปลายเชิดขึ้นแทงทะลุสวนแนวเรียวยาวของบังโคลนท้ายส่งเสียงแห่บพร่าๆ แบบสุภาพๆ และฟีลลิ่งกำลังของเครื่องยนต์ Rotax ที่อึดทนนานลูกนี้ยังจัดว่า "นุ่ม และสุภาพ" มากทีเดียวเมื่อนำไปเปรียบกับสไตล์ของรถที่เน้นความจี๊ดจ๊าดในการยักย้ายส่ายสะโพกกับการพลิกรถแล้วรีบเปิดคันเร่งแรงๆ โดยกำลังในช่วงที่เข็มวัดรอบเริ่มกวาดขึ้นในช่วงต้นๆ จนถึงช่วงกลางๆจะรู้สึกได้ถึงแรงตะกุยของล้อหลังได้พอสมควร แต่พอถึงช่วงปลายๆของเรือนวัดรอบกลับเริ่มมีอาการไม่ตึงมือ ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรสำหรับรถในสไตล์โมตาร์ด เพราะผมลองกระแทกคันเร่งมันแบบไม่ปราณี ถ้าเป็นการใช้งานจริงบนถนน เราไม่สามารถทำเช่นนี้ได้โดยเด็ดขาด เพราะโอกาสที่เทกระจาดเป็นไปได้สูงครับ เนื่องจากตัวรถที่สูงปรี๊ด ยากต่อการ "ยัน" ในยามฉุกเฉิน เท่าที่ลองปรับท่าทางการขับขี่ รวมถึงเปลี่ยนสไตล์การใช้คันเร่งและเบรคสารพัดวิธี ผมกลับรู้สึกว่า การจะ "เอา" มันให้อยู่มือ ต้อง Knee Grip กันแบบสุดๆ โดยถอยก้นไปข้างหลังเล็กน้อย แล้วโก่งวงแขนขณะจับแฮนด์ให้งอหลวมๆ พยายามใช้ "ก้น" จับอาการดีดดิ้นของตัวรถ แล้วใช้ "ต้นขาด้านใน" เป็นตัวบังคับรถ ฝึกให้เคยชิน แล้วจะขี่มันได้สนุกกว่าการจัดท่ายืดขาเหมือนท่าขี่แบบ Motocross ปกติ

ลองมาจนหนำใจ จนได้ข้อสรุปของตัวเองกับ G650 Xmoto คันนี้ว่า ถ้าคุณมีความสูงไม่ถึง 180 ซม. ก็จงมองผ่านมันไปซะเถอะ เพราะจะเป็นการทรมานสังขารเสียเปล่าๆ ถ้าคิดจะขี่มันให้สนุก แต่ถ้าคิดจะซื้อมันมาขี่เพื่อฝึกประสาทควบคุมความเสียวแล้วล่ะก็ เจ้าG650 Xmoto คันนี้ มีสิ่งดีๆ ให้คุณค้นหาอยู่พอสมควร และอย่าเอามันไปเปรียบเทียบกับรถ Super Motard ของค่ายอื่น เพราะต้องอย่าลืมว่า G650 Xmoto คือรถแบบสุภาพที่พยายามจะทำออกมาให้เปรี้ยว ซึ่งต้องทำใจว่า มันไม่จี๊ดจนเข็ดฟันอย่างที่คิด

****