Register LOGIN Forget password ?
:: Special Scoops :: 2007 HONDA CB600F Hornet
Guest View : 29,391 / Last update : 14/08/2007
ประวัติและเทคโนโลยี สัมผัสที่ได้จากการขับขี่ ข้อมูลทางเทคนิค รวมภาพการทดสอบ
็Honda CB600F HORNET '07
็Honda CB250F HORNET '96
Honda CB600F HORNET '96
ต้นกำเนิดของมันมาจาก Honda Italia Industriale S.P.A
ระบบเบรก COMBINED ABS ที่ล้อหน้าด้านขวา กับขนาดจานดิสก์ 296 มม.
ช๊อคอัพหลังจากโรงงานตั้งความแข็งสปริงมา ระดับ 2 จาก 7 ระดับ ค่าที่ผมคิดว่าน่าจะดีที่สุดคือ ระดับ 3 และ 4 อาการท้ายย้วยจะหายไป
ช๊อคอัพหน้าปรับอะไรไม่ได้แต่ว่า SHOWA USD รุ่นนี้ไม่มีปัญหาดีดดิ้นใด
เครื่องยนต์ 4 จังหวะ 4 สูบ ขนาด 98.9 แรงม้า แทบไม่มีช่องว่างระหว่างเครื่องใดๆ บอกให้เราทราบได้ว่าไม่มีความจำเป็นที่ผู้ใช้จะต้องไปยุ่งอะไรกับมันเพราะระบบที่เห็นภายนอกทุกอย่างเป็นอเลคทรอนิก
ท่อไอเสียมาพร้อมแคตตาไลติกมาตราฐาน EURO3 ตัวเรือนท่อดูกดีไซน์ให้เป็นส่วนหนึ่งช่วรักษาบาลานซ์ของรถ ดังนั้นหากซื้อมาแล้วคิดจะเปลี่ยนท่อต้องคิดดีครับว่าจะมีผลกระทบสมดุลที่จะเสียไปหรือไม่
เบาะนั่งชิ้นเดียวมาพร้อมกับที่จับแบบนี้ ก็รู้ได้ทันทีว่าถูกเตรียมพร้อมมาสำหรับการท่องเที่ยว

แหย่รัง พญาแตนไฟ Honda CB600F Hornet ปี 2007

หวัดดีครับทุกท่าน... ห่างหายไปนานกับการเขียนคอลัมน์ วันนี้เหมือนผมมารำลึกถึงบรรยากาศเก่าๆสมัยทำหนังสือมอเตอร์ไซเคิล.. ในรอบหลายปีมานี้ จะแตกต่างไปหน่อยก็แต่สื่อที่นำเสนองานเขียนคราวนี้เป็น Website ซึ่งตัวผมมีความสุขมีอิสระในการเขียนมากกว่า ถ้ามีโอกาสก็จะหาเรื่องมานำเสนอบ่อยๆครับ...

มาเข้าเรื่องเลยดีกว่า ผมขอเริ่มต้นรื้อฟื้นความหลังด้วยประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ได้จากการร่วมทริปไปกับเพื่อนๆพี่ๆ น้องๆ ชาว stormclub.comใน Meeting VIII ....นอกจากได้เที่ยวทริปนี้ผมยังมีโอกาสพิเศษ.... รับหน้าที่ควบเจ้าพญาแตนไฟ Honda CB600F Hornet ปี 07 จาก AP Honda สภาพใหม่กิ๊กๆ ไปอวดหล่อล่อน้ำลายบรรดาสาวกทั้งหลาย.... ฮา ฮา ...

ที่นี้เมือได้ลองเล่นกับพญาแตนไฟ Hornet 600 คันนี้แล้ว จะให้ผมเก็บความรู้สึกไว้คนเดียวก็กระไรอยู่ เลยขอรื้อวิชามาเขียนบอกเล่าให้ท่านที่สนใจและกำลังจะหาม้าศึกตัวใหม่มาพาดหน้าขา เอ๊ยยย... หว่างขา สำหรับบางท่านเจ้าแตนไฟตัวนี้ อาจจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย โดยเฉพาะผู้ขับขี่ที่รูปร่างเล็กและต้องการรถขนาดกลางขี่ง่ายๆไว้ใช้หลายภาระกิจ.....

ความเป็นมาของพญาแตนไฟ
Honda CB600F Hornet เริ่มซ่าแต่ปี 1996 กับไซส์ยาง CBR900RR ขอเริ่มจากความเป็นมาของมันก่อน เจ้าพญาแตนไฟ CB600F Hornet 600 ตัวนี้เริ่มอาละวาดไล่ต่อยตลาด Naked ไบค์ตั้งแต่ปี 96 หลังจากที่ Honda ปล่อย เจ้าพญาแตนตัวจิ๋วขนาดไลทเวท Hornet 250 อาละวาดในญี่ปุ่นด้วยการฉีกแนวดีไซน์ นำสมัยด้วยท่อออกตูด และตะลึงพลึงเพริดกับขนาดของยางหน้าและหลังไซส์เดียวกันกับ Honda CBR900RR สปอร์ตไฮเปอร์ตัวแสบในปี 92-96 ช่วงนั้น เป็นเรื่องที่ไม่มีใครคาคคิดว่ารถขนาด 250 ซีซี จะใช้ยางหน้า 130 ขอบ 16 กับ ยาง 180 ขอบ 17 นิ้ว ส่งผลให้มันเป็นน้องแตนที่เปรี๊ยวปรี๊ดซ์... สำหรับการเล่นโค้งไปได้

ครบรอบ 10 ปีในตลาดยุโรปกับ โมเดล 2007
หลังจากปล่อย Hornet 250 ไปไม่นานนักปลายปี Honda จึงปล่อยตัวพญาแตนไฟ 600 ซีซี.ออกมาถล่มตลาดยุโรป โดยพัฒนาจากโครงสร้างหลักโดยเฉพาะเครื่องยนต์ของ CBR600F หากนับถึงวันนี้เจ้าพญาแตนไฟ Hornet 600 ก็ครบ 10 ปีในตลาดยุโรปเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมานี่เอง การปล่อยโมเดล 2007 จึงเหมือนกับประกาศความสำเร็จของมันไปในตัวว่า มันยังคงเป็นพญาแตนที่มีพิษสงรอบตัวสำหรับรถในคลาสเดียวกันต่อไปอีกนาน

เบรกหลังขนาดจานดิสก์ 240 มม. พร้อม sensor ABS ส่วนแม่ปั๊มเป็นของ NISSIN 1 ลูกสูบ
ไฟท้าย LED ไฟเลี้ยวมี Harzard มาให้ด้วยที่แฮนด์ด้านขวา
HISS ระบบกุญแจรักษาความปลอดภัยป้องกันการ โจรกรรมรถที่ยังคงอยู่ตั้งแต่ Model 2003
เรือนไมล์ บอกความเร็วเป็น DIGITAL พร้อมด้วยวัดรอบแบบเข็ม และสัญญาณเตือนการทำงานของ ABS บอกระดับน้ำมันเชื้อเพลิงแบบ Grafity สไตล์ Digital
ไฟหน้าแบบ Convex Dual bulb สว่างมากจริงๆ เวลาวิ่งกลางคืน
เครื่องมือติดรถ ถือว่าให้มาเยอะพอควร ทั้งตัวปรับตั้งช๊อกอัพและประแจสำคัญที่จำเป็น
ถังน้ำมันขนาด 19 ลิตร มากกว่ารุ่นเดิม 3 ลิตรเพียงพอให้เดินทางไกลได้ 300 กม ต่อน้ำมัน 1 ถึง (ด้วยความเร็วเฉลี่ย 80-130 กม/ชม)

โมเดล 2007 ดีไซน์จากโรงาน Honda ในอิตาลี่
ถ้าก้มดูในซอกเฟรมใต้ถังน้ำมันด้านซ้ายจะพบเพลทโลหะที่ระบุว่า ต้นกำเนิดของมันมาจาก Honda Italia Industriale S.P.A ซึ่งก็เป็นเครื่องยืนยันว่าแม้จะเป็นรถจากญี่ปุ่นแต่ดีไซน์และผลิตด้วยฝีมือชาวอิตาลี่ล้วนๆ โมเดลปี 2007 จึงไม่เหลือเค้าโครงที่เป็นของเดิม ทุกอย่างเป็นออกแบบใหม่หมด …แต่ก่อนจะมาเป็นโมเดล 2007 พญาแตนไฟตัวนี้ได้รับการปรับปรุงที่เห็นเป็นรูปธรรมอยู่ 2 ช่วงคือ ในเวอร์ชั่นปี 98 มีการลดขนาดของยางหน้าจาก 130 มาเป็น 120 และเปลี่ยนขอบล้อจาก 16 นิ้วมาเป็น 17 นิ้ว ทั้งนี้ด้วยเหตุผลที่ว่าเพื่อเพิ่มเสถียรภาพขับขี่ และการทรงตัวให้ดีกว่าเดิมเนื่องจากมันเป็นรถเอนกประสงค์ ไม่ใช่สปอร์ตจ๋าแบบ CBR900RR

หลังจากเปลี่ยนขนาดขอบล้อและยางแล้ว ในปี 2003 มันได้รับการขัดเกลารูปโฉมอีกครั้งให้ดูเป็นสปอร์ตที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากขึ้นแต่ยังคงไว้ซึ่งความเป็นเอนกประสงค์เหมือนเดิม จนที่สุดในปี 2007 นี้มันก็ถูก Re-Design ใหม่หมดตั้งแต่หัวจรดท้ายจน แม้กระทั้งนักเล่นก็คาดไม่ถึงว่ามันจะเปรี๊ยวปรี๊ดซ์ได้ขนาดนี้ ทั้งรูปร่างหน้าตาที่ผอมเพรียวจากดีไซน์เนอร์ชาวอิตาลี่ และเทคโนโลยี่ที่ยัดกันมาเต็มสตรีม

เทคโนโลยี่และเครื่องในของพญาแตนไฟ
Hornet 600 ระบบเบรก ABS + D-CBS

ต้องยอมรับว่าวิศวกรฮอนด้าใจถึงมากที่กล้ายัดของไฮเทค ที่ปกติจะอยู่แต่ในรถท๊อปคลาสรุ่นดังๆ เด่นสุดเลย ระบบเบรก ABS ของเจ้าพญาแตนไฟ ตัวนี้เป็นแบบเดียวกับที่อยู่ในรถทัวริ่งระดับบนเช่น Honda ST1300 Pan European ทำหน้าที่ป้องกันการล๊อกของล้อขณะเบรกอย่างรุนแรง เสริมด้วยระบบ D-CBS ที่ใช้ใน CBR1100XX Blackbird ทำหน้าที่ช่วยประสานน้ำหนักเบรกทั้งล้อหน้าและหลังให้สัมพันธ์กันตลอดเวลาที่ต้องหยุดม้าทั้งร้อยตัว

ช๊อกอัพหน้าแบบหัวกลับ (USD)
ช๊อคอัพหน้าเป็นเทเลสโกปิคขนาดแกน 41 มม HMAS (Honda Multi-Action System) แม้ว่าจะปรับเซ็ทใดๆ ไม่ได้เหมือนรถ Full Sport แต่ต้องถือว่า Honda ใจกล้ามากกกกก !!!! ส่วนด้านหลังเปลี่ยนสวิงอารม์ใหม่หมดเป็นอลูมิเนี่ยมทรง Tapered Box-Section พร้อมกับช๊อกอัพเดียวปรับสปริงพรีโหลดได้ 7 ระดับเสริมหล่อให้ดูไฮโซกว่าปี 2003 หลายขุม

บอกลาคาร์บูฯ ยัดหัวฉีด PGM-FI
นอกจากนี้แล้วพญาแตน Hornet 2007 ยังบอกลาการจ่ายน้ำมันด้วยคาร์บูเรเตอร์ขนาด 34 มม. ลูกเดิมแล้วยัดระบบหัวฉีด PGM-FI เวนจูรี่ขนาด 36 มม.เต็มรูปแบบมาแทน เพื่อเลี้ยงม้าทั้งร้อยตัวให้อิ่มหนำ ส่วนน้ำมันเชื่อเพลิงนั้นเนื่องจากมีอัตราส่วนกำลังในห้องเผาไหม้สูงถึง 12.0 ต่อ 1 ทำให้ต้องใช้น้ำมัน อ๊อกเทน 95 เท่านั้น... แต่ปัญหาคือตอนนี้น้ำมัน 95 มีแต่เฉพาะในเขตเมืองใหญ่เพียงบางปั๊มเท่านั้น ทำให้เราต้องเติมแก๊สโซฮอล 95 ขณะที่บางปั๊มก็ไม่มีทางเลือกเพราะไม่มีทั้ง 95 และ แกสโซฮอล 95 ก็ต้องไปเติม 91 ซึ่งไม่ปรากฏว่ามีอาการสะอึกหรือสำลักใดๆ... ตรงนี้ในระยะยาวถ้ามีการนำเข้ามาขายจริง คงต้องตอบคำถามเรื่องนี้อีกว่าจะเอาไงกับเรื่องน้ำมันดี ซึ่งข้อมูลเพิ่มเติมของเว็บเมืองนอกระบุว่าถ้าหาน้ำมัน 95 เติมไม่ได้ก็ให้เติม 91 แทนได้ เพราะในอเมริกาน้ำมันมีอ๊อกทนสูงสุดก็แค่ 92 เท่านั้น ข้อนี้คงต้องให้ทีมเทคนิคของฮอนด้าออกมาแก้ข้อสงสัยแหละครับ

พื้นฐานเครื่องยนต์จาก CBR600RR /ท่อไอเสียใหม่ น้ำหนักเบา
บล็อกเครื่อง 4 สูบแบบ DOHC 16 วาล์วลูกนี้ ขนาดกระชับ แคบ เล็ก และน้ำหนักเบากว่าโมเดล 2003 ถึง 5 กิโลกรัม นอกจากนี้ดีไซน์ท่อไอเสียได้นำเอาแนวคิดให้ส่วนที่มีน้ำหนักมากๆ อยู่ใกล้จุดศูนย์ถ่วงของรถให้มากที่สุด ถ้ามองจากด้านขวาของรถจะเห็นเหมือนท่อไอเสียอุ้มเครื่องยนต์อยู่ โดยมีส่วนของหม้อพักและแคตตาไลติกคอนเวอเตอร์อยู่ใต้เครื่อง แนวคิดการดีไซน์เช่นนี้ทำให้แรงต้านทานในการเหวี่ยงรถเข้าโค้งหายไปได้มาก โดยปกติยิ่งรถมีแรงต้านตัวนี้มากเท่าไหร่เราก็ยิ่งต้องออกแรงดึงรถเข้าโค้งมากเท่านั้น ระบบกรองไอเสียของพญาแตนไฟ ใช้ชุดแคตตาไลติกพร้อมชุดเซ็นเซอร์ HECS3 ให้ค่ามลพิษต่ำผ่าน EURO3 จากโรงงาน

เฟรมอลูมิเนี่ยม GDC ศูนย์ถ่วงต่ำ-เบา
ตัวเมนเฟรมใช้เทคนิคการออกแบบแบบ GDC (Gravity Die-Cast) ด้วยวัสดุอลูมิเนี่ยมผสม น้ำหนักเบา ส่วนรูปทรงการรับน้ำหนักเครื่องยนต์ สวิงอาร์มแบบ ระบบกันสะเทือนหน้าเป็นแบบ Mono Backbone และก็เช่นเดียวกันกับการออกแบบท่อไอเสีย วิศวกรพยายามจะเอาชิ้นส่วนที่มีน้ำหนักเข้าไปอยู่ใกล้จุดศูนย์ถ่วงของรถ โดยน้ำหนักรวมของเฟรมหลักก็จะไปอยู่แถว จุดยืดสวิงอาร์ม ที่ใกล้กับจุดศูนย์ของรถมากที่สุด

ถังน้ำมันเพิ่มความจุจาก 16 เป็น 19 ลิตร, สิ้นเปลืองเฉลี่ยที่ 19.57 โลต่อลิตร
สิ่งหนึ่งที่น่าเบื่อสำหรับรถที่มีความจุถังน้ำมันน้อยคือพิสัยการเดือนทางจะสั้นมากโดยเฉลี่ยแล้วโมเดล 2003 น้ำมัน 1 ถังจะวิ่งได้ระยะทางไม่เกิน 200 กม. แต่โมเดล 2007 นี้เอาน้ำหนักที่รีดออกไปจากชิ้นส่วนมาเพิ่มให้กับถังน้ำมันอีก 3 ลิตรช่วยเพิ่มพิสัยการเดินทางให้เหมาะกับการท่องเที่ยวทางไกลขึ้นอีก ซึ่งจากที่คำนวณระหว่างทางไปเทสต์คราวนี้ความเร็วเดินทางเฉลี่ยประมาณ 100 กม/ชม (80-130 กม/ชม) ค่าน้ำมันจะตกโลละ 1.45 บาท คิดจากค่าน้ำมันวันที่ไป เบนซิน 95 ลิตรล่ะ 28.39 บาท คำนวณแล้วก็จะได้อัตราสิ้นเปลืองเดินทางไกลอยู่ที่ 19.57 กมต่อลิตร... เมื่อดูจากพิสัยเดินทางแสดงว่าวิ่งด้วยความเฉลี่ยระดับนี้ คุณจะได้รัศมีเดินทางถึง 300 กม.แน่ๆ ต่อน้ำมัน 1 ถัง ถือว่าไม่เลวทีเดียวครับ

โคมไฟหน้า Convex Dual bulb สว่างโครตๆ
ก็สมแล้วที่เป็นรถสเป็คยุโรป เพราะเท่าที่เห็นรถทุกคันที่เป็นสเป็คยุโรปจะมีไฟหน้าสว่างมาก เจ้าพญาแตนไฟ ตัวนี้ก็เช่นเดียวกันแต่พิเศษกว่าเดิมตรงที่เป็นหลอดไฟแยกระหว่างไฟต่ำและสูง ภายในเป็นมัลติรีแฟรกเตอร์ ส่วนโคมกระจกเป็นดับเบิ้ลเลนซ์นูนที่บังคับการกระจายแสง ให้แสงสว่างมาก

หน้าถัดไป >> สัมผัสที่ได้จากการขับขี่

ประวัติและเทคโนโลยี สัมผัสที่ได้จากการขับขี่ ข้อมูลทางเทคนิค รวมภาพการทดสอบ
 
Privacy & Policy Statements Advertisement About StormClub.com Contact Stormclub.com