Register LOGIN Forget password ?
Webboard :: Travel :: 00015420
PAGE 1 OF 3
GO TO PAGE
========== เที่ยวกันวันธรรมดา ตอน "เสียว เพลิน หนุก เข็ด อิ่ม สุข ==========
ก่อนอื่นต้องขออภัยพี่ๆ น้องๆ นะครับ ที่ห่างเหินกันไปนานพอสมควรครับ คราวนี้เวลาเหมาะเจาะ ได้ออกเดินทางทริปเล็ก ๆ ด้วย Scooter กับเส้นทางที่สุดมันส์ในหน้าฝน
ท้าวความกันไปเล็กน้อยครับ เมื่อเกือบ 20 ปีที่ผ่านมา ผมเองใช้เจ้า Scooter เดินทางไปทั่วไทย และต่างแดน
คราวนี้ก็เลยย้อนกลับเข้ามาสู่ต้นกำเนิดการเดินทางของเรา ด้วย Scooter อีกครั้ง กับพี่ ๆ น้อง ๆ ที่มีหัวใจสองล้อเหมือนกัน
ชื่อตอนที่ได้มา ไม่ได้มาเพราะโชคช่วยครับ แต่ได้มาจากความรู้สึกล้วน ๆ ของนักเดินทางทุกท่าน
ซึ่งในตอนแรกผมเองก็คิดชื่อตอน ไว้หลากหลายชื่อ แต่คิดไปคิดมา เราควรจะมีส่วนร่วมกันทุก ๆ คน ก่อนจากกันผมเลยให้พี่ น้อง ที่เดินทางไปด้วยกัน พูดถึงความรู้สึกที่ได้รับ ในการเดินทางทริปนี้ คนละ1 คำ เท่านั้น ก็เลยได้มาเป็นชื่อตอน "เสียว เพลิน หนุก เข็ด อิ่ม สุข"
เรามาเดินทางไปเที่ยวด้วยกันดีกว่าครับ
Share |
เฉาก๊วย    time: 2012-07-10 15:30:13   แจ้งลบกระทู้

ความเห็นที่ #1
การนัดหมายในทริปนี้ จะมีการเดินทางจาก กทม. และน้องผม จากเมืองน่าน ซึ่งจุดหมายในวันแรก เรานัดเจอกันบนยอดภูทับเบิก ซึ่งระยะทาง ประมาณ เกือบ 400 กิโลเมตร
ซึ่งสำหรับ Scooters แล้ว ถือว่า่โหดอยู่เหมือนกันครับ เพราะความเร็วในการขับขี่ ไม่ได้เร็วมากนัก เหมือนรถใหญ่ ๆ
กทม. อาศัยออกเช้าหน่อยครับ นัดกัน 06:00 ที่ปั๊มน้ำมันที่วังน้อย กะไว้ว่าไม่เกิน 07:00 พวกเราต้องออกเดินทาง
นักเดินทาง ออกจากเมืองหลวง และมาถึงที่นัดหมาย ในเวลาไล่เลี่ยกันครับ พวกเราใช้สถานที่นัดหมาย เป็นสถานที่ ทานอาหารเช้าก่อนเลยครับ เพราะจะได้ไม่เสียเวลามากนัก ในการเดินทาง
จาก กทม.Scooters 4 คัน พร้อมกับวิบากเล็ก อีก 1 คัน หลังจากอิ่มท้อง น้ำมันเต็มถัง การเดินทางก็เริ่มขึ้นอีกครั้งครับ
พวกเราทำเวลากันได้ดีพอสมควรครับ ไม่มีปัญหาอะไร จนมาถึง อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์
พวกเราแวะตุนเสบียงกันก่อนครับ เพราะไม่แน่ใจว่า บนยอดภูทับเบิก จะมีอาหารขายหรือเปล่า เพราะวันนี้เป็นวันจันทร์ ซึ่งปกติ จะไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยว ร้านค้ามันจะปิด
กำลังออกจาก อ.หล่มเก่า ไปได้ไม่เกิน 1 กิโลเมตร รถผมรู้สึกถึงอาการผิดปกติครับ เหมือนส่าย ๆ ขี่ไม่ปกติแล้ว
รุ่นน้องดูที่ยางท้ายบอกว่า ยางอ่อน ๆ ผมตัดสินใจเลี้ยวกลับไปที่ปั๊มที่ผ่านมา และที่สุด ยางรถผมรั่วจริง ๆด้วยครับ
จริง ๆแล้วรถ Scooters มียางอะไหล่ครับ สามารถเปลี่ยนและไปได้ต่อครับ แต่ถ้ามีท่ีีปะยาง เราปะยางให้เรียบร้อยดีกว่าครับ ยางอะไหล่จะได้เก็บไว้ใช้ได้ในยามจำเป็นอีก
ระหว่างที่เปลี่ยนยางอยู่ มีเสียงโทรศัพท์เข้ามา เป็น น้องบี จากเมืองน่าน ได้ส่งข่าวว่า รออยู่บนภูทับเบิกแล้วครับ
เปียกปอนไปหมดเลย เพราะฝนตกตลอดทาง ใช้เวลาไม่นานครับ ยางได้ปะเสร็จเรียบร้อย และเริ่มออกเดินทางต่อ
สายฝนโปรยปรายตลอดเลยครับผม เย็นสบาย แต่ต้องใช้ความระมัดระวังในการขับขี่อย่างมาก ๆ
เฉาก๊วย  2012-07-10 15:45:16      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #2
ในระหว่างเส้นทางที่กำลังขึ้นสู่ยอดดอย ภูทับเบิก สายฝนยังคงไม่หยุดยั้ง และยังคงทำให้พวกเราฉ่ำกันทั่วทุกคน ในขณะที่กำลังเข้าโค้งหักศอกทางซ้าย พอเลี้ยวไปผมเห็น วัยรุ่นของผม รถเข้าไปอยู่ในหญ้า (ตกลงจากไหล่ทางแล้ว)
พวกเรารรีบจอดรถ และรีบลงมาช่วยกัน จนสามารถนำรถขึ้นมาได้ พวกเราเลยจอดแวะพักกันสักหน่อย เพราะระยะทางอีกไม่ไกลก็จะถึงจุดนัดหมายแล้ว
วัยรุ่นของผม อายุ 67 ขวบเข้าไปแล้ว แต่หัวใจยังซ่าส์อยู่ครับ แต่คราวนี้ หน้าซีดลงไปเล็กน้อยครับ
หลังจากพัก หายใจหายคอ กันสักพัก พวกเราก็เริ่มเดินทางต่อครับ เพราะน้องบี จากเมืองน่าน ได้รออยู่ที่ยอด ภูทับเบิกเรียบร้อยแล้ว
เฉาก๊วย  2012-07-10 15:51:22      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #3
อิจฉา
Home Alone  2012-07-10 15:25:11      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #4
ความสนุก ความเพลิดเพลิน ความตื่นเต้น มีมาหมดเลยครับ ในการขึ้นเขา ระหว่างที่ฝ่าสายฝนมานั้น บางช่วง ฟ้าเปิด ลมแรงพัดหมอกจากหายไป ทำให้เห็นยอด ภูทับเบิก ผมเองก็อดใจไม่ไหว ที่จะต้องจอดบันทึกภาพกันสักหน่อย แม้ว่าเวลาจะน้อยนิด และฟ้าไม่เปิดเท่าไหร่นั้น
การบันทึกสำหรับผมแล้ว ไม่จำเป็นต้องฟ้าใส ขอให้ได้บันทึกเรื่องราวทุก ๆ ครั้งในการเดินทาง เท่านี้ก็รู้สึกเพียงพอแล้ว เพราะทุก ๆ ครั้งที่เรากดชัตเตอร์ น่ั่นคือ เรื่องราวของเรา
เฉาก๊วย  2012-07-10 15:59:17      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #5
ในที่สุดพวกเราก็ขึ้นมาถึงยอดภูทับเบิกครับ และก็ได้เจอกับน้องบี สหายจากเมืองน่าน ซึ่งตอนแรกบอกว่าจะมากัน 3 คัน แต่ในที่สุด พรรคพวกหายหมด ทำให้ต้องลุยเดี่ยวมาคันเดียว แบบโดดๆ แต่เรื่องแบบนี้มันอยู่ที่ใจครับ
สภาพอากาศนั้นขอบอกได้เลยว่า ฝนตกแบบไม่รู้จักเหน็ด ไม่รู้จากเหนื่อยครับ อากาศเย็น จนเรียกได้ว่า หนาวววววววว
พวกเรายึดเอาร้านอาหารเล็ก ๆ ซึ่งพึ่งสร้างได้ไม่ได้นานครับ เป็นที่ที่อาศัย การกางเต้นท์ ในค่ำคืนนี้ครับ เพราะถ้าเราไปกางเต้นท์บนยอดภูทับเบิก คาดว่า จะได้ไม่ได้นอนกันอย่างแน่นอนครับ เพราะจะเละ และแฉะ กันไปทั่งคืนอย่างแน่นอนครับ
ในค่ำคืนแรก บนภูทับเบิก ก่อนที่จะแยกย้ายกันไปนอนนั้น บทสนทนา ในการเดินทางของวันนี้ ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน แม้ว่าในช่วงเวลานั้นมันจะตื่นเต้นมาก ๆ ก็ตาม
การสนทนา กับอากาศที่ต่ำกว่า 20 องศา ทำให้พวกเราค่อย ๆ แยกย้ายกันไปนอนในเต้นท์แบบไม่มีใครเปิดให้อากาศเข้ากันเลยทีเดียว นอนก่อนนะครับ ไม่ไหวแล้ว พรุ่งนี้เช้าเจอกัน
เฉาก๊วย  2012-07-10 16:08:28      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #6
เช้าวันใหม่ กับอากาศที่สดใส กับสายฝนที่ยังคงโปรยปราย ทำให้กะหล่ำปีนั้น ชุ่มฉ่ำ สดชื่น
กาแฟร้อน ๆ ยามเช้า ช่วยให้ร่างกายของพวกเราอุ่นขึ้น พร้อมกับอาหารเช้า ข้าวต้มร้อน ๆ ช่วยให้ท้องที่ร้องเมื่อค่ำคืน เงียบเสียงลงได้บ้าง
พวกเราตื่นกันตั้งแต่เช้าตรู่ แต่วันนี้ อากาศยังปิดอยู่ครับ ไม่มีแดดเลย มีแต่สายฝน ที่ยังคงไม่รู้จักค่ำว่าเหนื่อย
เฉาก๊วย  2012-07-10 16:13:13      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #7
ระหว่างที่พวกเรากำลังจิบกาแฟ ภาพตรงหน้าที่เห็นคือ ชาวบ้านที่รับจ้างขนกะหล่ำปี เพื่อนำไปที่รถกะบะ ที่มารอบรรทุก เพื่อไปส่งในเมือง
วันนี้คงเป็นอุปสรรคสำหรับการขนกะหล่ำปี เพราะฝนตกตลอดเลย และทำให้พื้นดินลื่นอีกต่างหาก ไหนจะต้องแบกน้ำหนัก และยังคงต้องระวังกับพื้นดินที่ ทำให้การทรงตัวลำบากขึ้น
เฉาก๊วย  2012-07-10 16:18:09      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #8
ปัจจุบันบนยอดภูทับเบิก ที่ดินบางส่วนที่เคยเป็นไร่กะหล่ำปี ได้มีรีสอร์ทเล็ก ๆ เกิดขึ้นกันเป็นระยะ ๆ ทำให้เห็นสิ่งปลูกสร้าง สลับกับไร่ กะหล่ำปี
เฉาก๊วย  2012-07-10 16:20:54      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #9
หลังจากที่ขนกะหล่ำกันมาแล้ว ก็จะมีเรียงกันอย่างเป็นระเบียบ เรียบร้อยจริง ๆครับ เพื่อนำไปส่งให้กับพ่อค้าในตลาด ถ้ามาไม่ถูกฤดู ภาพแบบนี้ไม่ได้เห็นกันง่าย ๆนะครับผม
เฉาก๊วย  2012-07-10 16:25:59      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #10
เวลาล่วงเลยมาหลายชั่วโมงแล้ว เกือบจะครึ่งวันแล้ว สายฝนยังคงกระหน่ำ กันมาเป็นระยะ จนทำให้พวกเราต้องตัดสินใจ เดินทางต่อ ท่ามกลางสายฝนนี่แหละครับ
ทุก ๆคนใส่ชุดกันฝนกันพร้อมเพียง การขับขี่ต้องใช้ความระมัดระวังมากกว่าเดิมครับ เพราะเส้นทางลงเขานั้นชันมาก ๆ ขนาดถนนแห้งปกติ ยังมีคนล่วงมาหลายรายแล้ว แต่นี่ทั้งเปียก ทั้งลื่น แถมรถก็เล็กอีก ไม่เหมือนรถใหญ่ ๆ
เฉาก๊วย  2012-07-10 16:30:22      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #11
ในระหว่างที่กำลังลงเขามานั้น ผมมาเจอรุ่นน้องผม จอดอยู่ เพราะว่าเป็นรถเกียร์ออร์โต้ เวลาลงเขาไม่มีเกียร์ ไม่มีคลัชให้ช่วย น้ำมันเบรคเดือดเลยครับ (เบรคไม่อยู่) ก็เลยจอดสักพัก
แต่ด้วยทักษะของน้องผมคนนี้ ไม่ธรรมดาครับ สามารถประคับประคอง รถ และภรรยา ลงมาสู่ อ.หล่มเก่า อย่างปลอดภัย
ระยะทางไม่ไกลมากนัก แต่ใช้เวลานานอยู่ ทำให้ข้าวต้มเมื่อเช้านี้หมดไปแล้วครับ ขนมจีนเจ้าประจำ ของที่นี่ ต้องแวะไปทานกันหน่อยครับ
ขอบอกว่าทานกันอย่างไม่หยุดยั้ง แถมยังนอนหลับกันที่นี่อีกคนละงีบเลยครับ เพราะสายฝนยังไม่หยุดตกครับพี่น้อง
เวลาเริ่มเข้าช่วงครึ่งวันหลังแล้วครับ พวกเรายังคงใส่ชุดกันฝนต่อไป กับจุดหมายในวันนี้ อ.เชียงคาน
เฉาก๊วย  2012-07-10 16:37:20      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #12
หลังจากฝ่าสายฝนมาจนเกือบถึง อ.ภูเรือ สายฝนค่อย ๆหายไป พร้อมกับแสงแดดเริ่มออกมาเพื่อทำให้เราร้อนกันเหลือเกิน (ก็ยังทะลึ่งใส่ชุดกันฝน) พวกเราแวะจิบกาแฟกันซะหน่อย พร้อมกันถอดชุดกันฝนออก นำตากแดดซะ ก่อนที่จะเดินทางกันต่อครับ เพราะระยะทางอีกไม่ไกลแล้วจะถึงจุดหมาย
เฉาก๊วย  2012-07-10 16:41:09      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #13
ก่อนที่ตะวันจะตกดิน พวกเราเดินทางมาถึงเมืองที่กำลังเป็นที่นิยมมาก ๆ ในหมู่นักท่องเที่ยว อ.เชียงคาน
รุ่นน้องผม เป็นคนปั่นจักรยานมาเที่ยวเมืองนี้ แล้วก็ตัดสินใจเช่าบ้านอยู่ที่นี่เลยครับ เมื่อประมาณ 5 ปีที่ผ่านมา ก่อนทีีี่เชียงคาน จะเป็นที่นิยม
พวกเรามาชมวิวริมโขง ฝูงนกกลุ่มนี้ก็กำลังบินกลับรัง และผมว่าคงแวะมาทักทาย คนหน้าตาแปลกหน้าอย่างพวกเราด้วย
เฉาก๊วย  2012-07-10 16:47:59      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #14
ทุก ๆ ครั้ง ๆที่ผมมีโอกาสได้มาริมโขง ภาพวิถีชาวบ้านที่อยู่ริมแม่น้ำ ยังคงเป็นภาพที่ผู้คน ออกมาหาปลา เห็นกี่ครั้งก็ยังชอบอยู่ทุกครั้งไป
พวกเรา มานั่งทานข้าวบริเวณร้านอาหารที่อยู่ริมโขง บรรยากาศยอดเยี่ยมกันไปครับพี่น้อง
แต่อากาศจะเทียบกับเมื่อคืนที่ผ่านมาไม่ได้เลยครับ เพราะเมื่อคืนนี่เรียกได้ว่า ฉ่ำโบ๊ะ โช๊ะเด๊ะ
เชียงคานในวันธรรมดา เดินเล่นได้สบายครับ แต่ใครที่คาดว่าจะมาเดินช๊อปปิ้งนั้น อาจจะผิดหวังนะครับ เพราะร้านจะเปิดน้อยลง โรงแรมบางที่ จะเปิดเฉพาะวัน ศุกร์ เสาร์ หรือวันหยุดเท่านั้น
แต่ถ้าเป็นวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ รุ่นน้องผมบอกว่า ที่นี่คิือ เสินเจิ้นเลยครับผม ที่เดินแทบจะไม่มีกันเลยครับ
เฉาก๊วย  2012-07-10 17:01:34      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #15
เช้านี้ที่เชียงคาน
ผมกับน้องบี ไม่พลาดที่จะตื่นเข้ามาเก็บภาพกัน รุ่นน้องผมแนะนำว่า ให้ขึ้นไปบนเขา จะเห็นวิวทั้งหมดของเชียงคาน
ไม่ผิดหวังครับที่ขึ้นมา แม้ว่าฟ้าจะไม่ค่อยเป็นใจ แต่ส่วนตัวผมแล้ว แค่ได้บันทึกเรื่องราว ความสุขก็เกิดขึ้นทุกครั้งครับ
เฉาก๊วย  2012-07-10 17:13:09      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #16
น้องภาคเหนือ กับพี่ภาคกลาง ขี่มาเจอกันที่ภาคอีสาน นานมากแล้วครับ ท่ีผมกับบี ไม่ได้ออกรอบด้วยกันครับ
เฉาก๊วย  2012-07-10 17:16:33      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #17
เช้า ๆ แบบนี้ วิถึชีวิตชาวบ้าน การใส่บาตร ผมกับน้องบี ก็แวะใส่บาตรมาก่อนแล้วเช่นกันครับ
แต่ตอนที่กำลังเดินทางกลับเข้าเมือง ผมเห็นคุณป้าคนนี้แล้วต้องจอดรถ มารอถ่ายรูปเลยครับผม
เฉาก๊วย  2012-07-10 17:18:31      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #18
หลังจากบันทึกภาพคุณป้าเสร็จแล้ว ผมหันหลังมาเจอน้องผู้หญิงคนนี้ เตรียมตัวใส่บาตรด้วย แม้ร่างกายของน้องจะไม่สมบูรณ์ แต่จิตใจเขาสิครับ รู้จักทำบุญ (จะบอกว่าจริง ๆแล้วผมถ่ายรูปน้องเขามาเยอะมากครับ เพราะอารมณ์เขาดีสุด ๆแถมมีสุนัขคุ่กายเป็นเพื่อน) เห็นแล้วก็อมยิ้มอยู่ครับ น่ารักมาก ๆ
เฉาก๊วย  2012-07-10 17:22:42      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #19
ไหน ๆ ก็ไหน ๆแล้ว มาถึงเชียงคานแล้ว ก็ต้องบันทึกภาพ อาคารไม้รุ่นเก่ากันหน่อยครับ
เฉาก๊วย  2012-07-10 17:25:14      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #20
ขออีกรูปแล้วกันนะครับ ในกล้องรุ่นน้องผมคนนี้ บอกผมว่า ในเมมโมรี่ มีแต่เธอ มีแต่เธอ วันหลังก็หันมาข้างหลังถ่ายพี่บ้างก็ได้น้องเอ๊ย
เฉาก๊วย  2012-07-10 17:26:38      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #21
ในที่สุดเวลาของพวกเรากับเชียงคาน ก็ต้องจากกันซะแล้ว หลังจากที่รุ่นน้องผม เตรียมอาหารเช้าแบบง่าย ๆ แบบชาวบ้านนี่แหละครับ รับรองพวกเรา (ขอบอกว่า อิ่ม และอร่อยมากครับ)
ก่อนจากเชียงคาน ผมและเพื่อน ๆ ขอบคุณครอบครัวของ ปุยทั้งภรรยา และเจ้าตัวเล็ก น้องกรีน ที่ต้อนรับคุณลุงตัวใหญ่ ๆ กัน ทำให้หนูตื่นเต้น และแปลกตา ขอบคุณมาก ๆนะครับน้อง สำหรับ มิตรภาพที่ดี
พวกพี่ ๆ จะแวะมาเยี่ยมเยียนใหม่นะครับผม
เฉาก๊วย  2012-07-10 17:32:07      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #22
พวกเราออกจากตัวเมืองเชียงคาน มุ่งหน้าสู่จังหวัดเลย ระยะทางไม่เกิน 20 กิโลเมตรครับ ภาพนี้ผมเองผ่านไปเมื่อวานนี้แต่เวลาจะหมดวันแล้ว ตั้งใจว่าวันนี้แหละครับ จะแวะกันซะหน่อย
เฉาก๊วย  2012-07-10 17:34:48      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #23
ช่วงนี้เป็นฤดูที่กำลัง ดำนา เมื่อวานก็ผ่านครับ แต่เวลามันจำกัดไปหน่อย กะว่าวันนี้ถ้าเจอชาวนากำลัง ดำนา ต้องบันทึกภาพกันซะหน่อย เพราะส่วนตัวแล้วผมอยาก บันทึกภาพ การทำนา ตั้งแต่ต้นจนจบเลย กำลังหาเวลา และจังหวะที่เหมาะสมอยู่ครับ
เฉาก๊วย  2012-07-10 17:39:16      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #24
ชาวนากับอัทธยาศัย ที่ยิ้มแย้มแจ่มใส่ และชอบที่เห็นผมเข้าไปบันทึกภาพ น่ารักดีครับ นี่แหละ ข้าวที่พวกเรากิน กว่าจะได้แต่ละเม็ด มันช่างแสนยากลำบาก
เฉาก๊วย  2012-07-10 17:41:47      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #25
ระหว่างทางที่จะออก จังหวัดเลย รุ่นน้องผมแนะนำอีกหนึ่งเส้นทางครับ (อย่าได้มาแบบผมนะ) ถ้ารถไม่ใช่ มันดันเป็นทางกึ่งวิบากหน่อยครับ แต่เส้นทางวิบาก ทำให้ผมเจอเส้นทางนี้ครับ ชมภาพนี้กันไปก่อน เพราะภาพจากด้านหลังผม จะเป็นภาพต่อไปครับ
เฉาก๊วย  2012-07-10 17:46:45      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #26
ตอนแรกที่เลี้ยวมาแล้วมองเห็นต้นไม้ข้างหน้านั้น ผมนึกถึงกล้องอินฟาเรด ของผมเลย ก็เลยต้องจัดกันซะหน่อยครับ ให้ขี่เรียงกันไปเลยครับ เพราะว่า ไม่ค่อยมีรถวิ่งครับ ถนนเพิ่งตัดใหม่ ๆ ทางสวย ๆ วิวสวย ๆ (ถ่ายกันไปเยอะนะครับ) แต่ชมแค่นี้นะ เดี๋ยวจะเลี่ยนกันซะก่อนครับ
เฉาก๊วย  2012-07-10 17:50:52      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #27
(-o-) ผมเริ่มจะเกลียด คุณเฉาก๊วย ขึ้นทุกวั้นนนนทุกวันแล้วแฮ่ะ "คำโบราณเขาบอกว่า ถ้ายิ่งเกลียดก็จะยิ่งเจอ" (^v') โฉบเข้ามาแซวน่ะครับพี่ ^^
seesar  2012-07-10 17:52:46      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #28
มัวแต่แวะบันทึกภาพ ขี่เล่นถ่ายรูป จนอาหารที่ทานเมื่อเช้า ย่อยไปหมดแล้ว พวกเราแวะทานก๋วยเตี๋ยวที่ วังสะพุงครับ เพราะเส้นทางต่อไป คือเราจะวิ่งไปทางภูหลวง เข้าสู่หล่มเก่า เข้าหล่มสัก และมุ่งหน้าสู่เขาค้อ นั่นคือจุดหมายปลายทางของวันนี้
เฉาก๊วย  2012-07-10 17:54:46      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #29
หลังจากหนังท้องตึง น้ำมันก็เต็มถัง เพราะเส้นทางข้างหน้า ต้องขึ้นเขาอีกยาวไกล ไม่นานนัก พวกเราขี่มาถึงภูหลวง กับถนนโล่ง ๆ วิวภูเขา ที่เป็นเอกลักษณ์ อดไม่ได้ที่ต้องจอดบันทึกภาพกันหน่อยครับ ก่อนที่เส้นทางจะค่อย ขึ้นเขาแบบสุดมันส์
เฉาก๊วย  2012-07-10 17:57:17      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #30
พวกเราค่อย ๆ ไต่ระดับความสูง ขึ้นมาเรื่อย ๆ เส้นทางคดเคี้ยว ผสมกับสายฝนเล็ก ๆ ที่คอยพรมลงมาที่ตัวพวกเรา เพิ่มความเย็นในการขับขี่
ผมกับพี่น้อง ขอใช้เวลาอยู่บนนี้สักระยะครับ ขอสัมผัสกับความงามของธรรมชาติ อย่างเต็มที่
เฉาก๊วย  2012-07-10 18:02:14      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #31
บรรยากาศแบบนี้ เมืองไทยเรา ไม่ไปไม่รู้นะครับ
เฉาก๊วย  2012-07-10 18:03:14      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #32
อีกมุมหนึ่งครับ รุ่นน้องผมกำลังบันทึกเรื่องราวของตนเองอยู่ ว่าครั้งหนึ่งเขาเคยมาเยือนถนนเส้นนี้ ซึ่งอาจจะเป็นเส้นหนึ่งที่สวยในเมืองไทยเรานะครับ
เฉาก๊วย  2012-07-10 18:04:23      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #33
ขออีกนิดนะ ก่อนจากกัน
เฉาก๊วย  2012-07-10 18:05:48      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #34
หลังจากลงจากเขา มุ่งหน้าสู่ อ.หล่มเก่า ในระหว่างที่รถผมกำลังเลี้ยวเข้าปั๊ม อาการของรถผม เริ่มผิดปกติอีกแล้วครับ
คราวนี้พอจอด สภาพยางก็เป็นอย่างที่เห็นนี่แหละครับ น้องบีเอายางในมาให้ใหม่ ๆ เลยครับ พวกเราทำการเปลี่ยนยางใช้เวลาไม่นานมากครับ ก็สามารถเดินทางต่อได้แล้ว
เฉาก๊วย  2012-07-10 18:10:41      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #35
ในระหว่างที่พวกเรากำลังเดินทางมุ่งหน้าสู่เขาค้อ ผมเองขี่เป็นคันสุดท้ายเลยครับ และและเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นกับผมอีกครั้ง
ระหว่างเลี้ยวซ้ายเข้าโค้ง อาการที่คุ้นเคย ก็เริ่มมาอีกแล้ว (ในใจผมนึก เอาอีกแล้วเหรอ) รถผมเริ่มส่าย ผมเองต้องรีบประคองเข้าข้างทาง ส่วนคันหน้าผมก็กำลังขมักเขม้น กับการเข้าโค้ง และก็เลยไปโดยที่ไม่ได้มองกระจกหลัง
ดูเวลาแล้ว การเปลี่ยนยางครั้งนี้ไม่น่าที่จะนานนัก น่าจะทันไม่ค่ำมืดเสียก่อน
ไม่รอช้าครับ เอาของออกจากรถ แล้วรีบเอียงรถ พร้อมรีบถอดยาง และนำยางอะไหล่ มาใช้ทันที
ระหว่างที่ผมเปลี่ยนยาง มีีพี่น้องไทยเรา แวะมาสอบถาม ว่าเป็นอะไรหรือเปล่า มีอะไรให้ช่วยไหม คนไทยน้ำใจงามจริง ๆ (แต่ในใจก็คิดว่าจะมีใครมาปล้นเราหรือเปล่าหว่า)
ผมบอกกับรถที่กำลังขึ้นเขาไป บอกว่า "ถ้าเจอรถแบบนี้ บอกว่า รถยางแตก แต่แก้ไขได้แล้ว ให้รออยู่ข้างหน้าครับ"
กำลังเก็บของขึ้นรถเหมือนเดิมครับ วัยรุ่นอายุ 67 วนรถกลับมาดูครับ เพราะได้รับข่าวจากรถที่ผมบอกไป แต่ไม่มีปัญหาอะไรแล้วครับ พวกเราสามารถเดินทางต่อได้ครับ
จากเป้าหมายเขาค้อครับ แต่เวลาค่ำแล้ว พวกเราเลยเลือก Routh 12 เป็นที่กางเต้นท์ในค่ำคืนนี้ครับ เพราะพรุ่งนี้จะต้องเดินทางไกล จะได้ไม่ต้องย้อนไปย้อนมาครับ
ก่อนที่จะกางเต้นท์ พวกเราแวะทานอาหารใกล้ ๆ กับที่พักก่อน เติมพลังให้กับตัวเอง
และพวกเรามากางเต๊นท์ ในค่ำคืนที่แสนจะสบาย ๆ ไม่หนาวเกินไป
เฉาก๊วย  2012-07-10 18:25:40      แจ้งลบความเห็น

PAGE 1 OF 3
GO TO PAGE

Privacy & Policy Statements Advertisement About StormClub.com Contact Stormclub.com