Register LOGIN Forget password ?
Webboard :: Travel :: 00012610
ชวนเพื่อนๆไปขี่รถเที่ยวกัน
หลายคนที่มีรถบิคไบค์อยู่ในครอบครอง แต่ไม่เคยขี่รถออกทริปเป็นกลุ่ม เพราะมีความกังวลในหลายๆเรื่อง เช่น กลัวขี่ไม่ทันกลุ่ม กลัวว่าในกลุ่มใช้ความเร็วช้า หรือ เร็วกว่าที่ตัวเองชอบ หรือ แม้กระทั่งกังวลว่ารถต่างชนิด ต่างยี่ห้อจะขี่ร่วมขบวนกันได้อย่างไร สิ่งเหล่านี้ทำให้หลายๆครั้งที่เราได้รับการชักชวนจากบรรดาไบค์เกอร์ที่รู้จัก หรือ ไบค์เกอร์ที่อยู่แถวๆบ้าน ให้ไปขี่รถด้วยกัน แต่เราต้องปฎิเสธไปอย่าน่าเสียดาย และจบลงด้วยการขี่รถออกทริปคนเดียวในครั้งต่อไปเช่นเคย

ลองกลับมาทบทวนใหม่ว่าเราจะเริ่มต้นการขี่รถท่องเที่ยวแบบเป็นกลุ่มได้อย่างไร
หลักสำคัญของการขี่รถท่องเที่ยวแบบเป็นกลุ่มคือการสื่อสาร ในทุกๆเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการออกทริป ซึ่งจะแบ่งออกเป็นสองอย่าง คือ
Share |
naja    time: 2010-09-21 07:21:15   แจ้งลบกระทู้

ความเห็นที่ #1
1.การสื่อสารด้วยคำพูดหรือการสนทนา
ในการขับขี่รถท่องเที่ยวแบบเป็นกลุ่มครั้งแรกๆโดยที่เราไม่เคยขี่ด้วยกันมาก่อน สามารถเริ่มทำได้ด้วยการนัดแนะสถานที่ และเวลารวมตัวกัน เมื่อมาพร้อมกัน เราจึงเริ่มการสนทนา เช่น สอบถามความเห็นของผู้ร่วมทริปว่าเราจะไปไหนกัน ความเร็วสูงสุดที่จะใช้จะกำหนดไว้ไม่เกินเท่าไหร่ หรือตกลงเส้นทางที่จะใช้ในการเดินทาง หรือเป็นการให้ข้อมูลแก่เพื่อนร่วมทาง เช่น ควรเว้นระยะห่างจากรถผมเพราะไฟท้ายรถผมเสีย เป็นต้น
ก่อนออกทริปก็ควรจะทำความรู้จักซึ่งกันและกัน ศึกษาสไตล์การขับขี่ของแต่ละคน รวมทั้งสมรรถนะรถที่แต่ละคนใช้ในทริปนั้น สอบถามว่ามีใครเคยขี่ไปในเส้นทางที่กำลังจะไปหรือไม่ เพื่อเป็นการหาผู้นำทางในแต่ละช่วง ให้ผู้ที่เคยเดินทางในเส้นทางที่จะไปเป็นผู้นำทางก่อน จะทำให้ไม่หลงทาง ซึ่งจะทำให้เสียเวลา ในการเดินทาง แต่ละช่วงของการเดินทางเราสามารถที่จะผลัดเปลี่ยนผู้นำขบวนได้ตามความเหมาะสม ทั้งนี้ผู้นำขบวนควรจะมีประสบการณ์ในการขับขี่รถมาในระดับหนึ่ง ที่สามารถจะนำขบวนให้ไปถึงจุดหมายได้โดยปลอดภัย

ผู้นำขบวนควรที่จะต้องกำหนดความเร็วในการเดินทาง เนื่องจากความแตกต่างทางทักษะของผู้ขับขี่ และ ชนิดของรถที่ใช้ เพื่อให้ทั้งขบวนสามารถเดินทางไปด้วยกันได้โดยขบวนไม่ขาด ในบางครั้งที่หัวขบวนไม่สามารถมองเห็นท้ายขบวน หรือขบวนขาด ควรจะมีการจอด หรือกำหนดจุดจอดเป็นระยะเพื่อให้สมาชิกทั้งขบวนสามารถเดินทางไปโดยพร้อมเพียงกัน การขี่เป็นขบวนใหญ่จะมีความปลอดภัยกว่าการขี่เดี่ยว
naja  2010-09-21 04:23:00      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #2
2. การสื่อสารด้วยการแสดงออกในท่าทาง เช่นสัญญาณมือ เป็นต้น
ก่อนออกเดินทางควรมีการนัดแนะการใช้สัญญาณมือเพื่อบอกเหตุ หรือเตือนสมาชิกในขบวน การใช้สัญญาณมือ แบบง่ายๆ ทำได้ดังนี้

สัญญาณให้ชลอ หรือ หยุดรถ ให้ยกมือซ้ายห่างจากลำตัวโบกขึ้นลงเพื่อให้ชลอรถ ใช้ในกรณีที่ผ่านด่านตรวจ หรือ เข้าเขตชุมชน การยกมือซ้ายให้ข้อศอกตั้งฉากกับลำตัวโดยแบบฝ่ามือเป็นการบอกให้หยุดรถ เช่นมีไฟแดงข้างหน้า แต่ถ้ากำมือหมายถึงให้หยุดรถโดยเร็ว โดยที่ข้างหน้าอาจเป็นไฟแดงในระยะกระชั้น หรือ มีอุบัติเหตุข้างหน้า

สัญญาณเตือน มีคน รถ หรือ สุนัขอยู่ใกล้เส้นทางที่ใช้ อาจใช้มือที่ว่างชี้ไปที่จุดนั้น บางครั้งไม่สามารถใช้มือชี้ ก็อนุโลมให้ใช้เท้าชี้ได้ แต่มุมที่ชี้ไม่ควรสูงมาก เพราะอาจจะทำให้ดูไม่สุภาพ

สัญญาณเตือนสภาพพื้นผิวจราจร เช่น ถนนลื่น มีกรวดลอย มีน้ำมัน เป็นต้น อาจใช้มือกางออกขนานกับพื้น แล้วทำมือส่ายไปมาเป็นการเตือนว่าถนนลื่นให้ระวัง หรือระหว่างขี่ผ่านหลุมอาจใช้เท้าชี้บอก ว่าตรงนี้มีหลุมให้ระวัง

สัญญาณการขอจอดพักเพื่อเข้าห้องน้ำ ดื่มน้ำ หรือ เติมน้ำมัน ให้ยกมือชี้หรือตบเบาๆไปที่สิ่งนั้น เช่นที่ถังน้ำมันหมายถึงต้องการจอดเพื่อเติมน้ำมัน หรือ ชี้ไปที่ท้องหมายถึงต้องการเข้าห้องนำ หรือชี้ไปที่ปากหมายถึงหิวน้ำ หรือข้าว เป็นต้น

สัญญาณขอความช่วยเหลือเมื่อรถเสีย ให้โบกเหมือนให้ชลอรถโดยการคว่ำฝ่ามือลง มีคนเคยน้ำมันหมด แต่หงายฝ่ามือโบก เพื่อนที่ผ่านมาก็เลยผ่านไปหมด สรุปคือต้องเข็ญรถไปหลายกิโลกว่าจะเจอปั๊ม

สัญญาณขอทาง ให้ยกมือซ้ายเอียงฝ่ามือออกจากตัว แล้วโบกไปข้างๆเพื่อให้รถคันอื่นหลบทางให้ หลังจากผู้ร่วมทางหลีกทางให้ควรแสดงการขอบคุณด้วย หากต้องการให้เพื่อนแซงไปข้างหน้าอาจใช้วิธีเปิดไฟเลี้ยวซ้ายขี่ชิดขอบทางแล้วใช้มือ หรือ เท้าโบกไปข้างหน้า ให้เพื่อนแซงขึ้นไป

สัญญาณให้วิ่งตรง หรือ เลี้ยว ให้ยกมือสูงเหนือหัวชี้ไปข้างหน้า หมายถึงให้ตรงไป ถ้าชี้ไปซ้าย หรือ ขวาก็ให้เลี้ยวไปทางนั้น การให้สัญญาณการเปลี่ยนช่องทาง หรือ เลี้ยวควร ทำก่อนถึงจุดอย่างน้อย 50 เมตร

การขอบคุณ ทำโดยเหยียดแขนออกไปด้านข้างแล้วยกหัวแม่โป้งให้ ควรทำอย่างแข็งขัน แสดงความขอบคุณอย่างจริงใจ ฝึกทำให้เคยชินครับ เพราะจะทำให้ผู้ร่วมทางมีทัศนคติที่ดีกับพวกเรา
naja  2010-09-21 04:21:28      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #3
3. การใช้สัญญาณไฟ และ สัญญาณเสียง
ในการเดินทางท่องเที่ยวสัญญาณไฟหน้า ไฟเลี้ยว และ แตร ควรจะมีการใช้อย่างสม่ำเสมอ เพื่อเป็นการบอกผู้ร่วมทางในการที่จะเปลี่ยนช่องทาง แซงรถ หรือ ขอทาง ในระหว่างการขับขี่ควรเหลือบมองกระจกหลังบ้าง เพราะในบางครั้งมีรถอื่นที่ต้องการจะแซงขบวน จะขับจี้หลังมา เราควรเปิดทางให้เขาไปก่อน ซึ่งจะช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุได้
naja  2010-09-23 04:38:30      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #4
4. ควรมีการตกลงกฎ กติกา หรือ ข้อปฏิบัติ เพื่อความปลอดภัย
ในระหว่างการขับขี่ ควรจะมีการตกลงกฏ หรือ ข้อห้าม เช่น ห้ามแซงผู้นำขบวน หรือ ห้ามแซงซ้ายของรถยนต์ เราจะหยุดพักขบวนที่ปั๊มน้ำมันแรกที่ระยะการเดินทาง 100 กม. (หลายๆครั้งที่ไม่ได้มีการนัดจุดพักรถทำให้บางคันขี่เลยจุดพัก ทำให้การเดินทางต้องล่าช้าออกไป) หรือ การให้สัญญานมือ เมื่อพบอุปสรรคบนเส้นทาง การใช้สัญญานไฟเลี้ยวในการแซงรถในขบวน เป็นต้น
naja  2010-09-21 04:35:17      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #5
5. รูปขบวนของการขับขี่
ควรมีการนัดแนะการใช้รูปแบบของขบวนในการเดินทาง การขี่สลับฟันปลาเป็นรูปแบบที่เหมาะสมในช่องทางที่กว้างพอ การตั้งขบวนแบบนี้จะทำให้ผู้ขี่ในขบวนสามารถมองเห็นได้ไกลขึ้น และมีพื้นที่ด้านหน้ามากขึ้น ในกรณีฉุกเฉิน การขี่แบบแถวเรียงเดี่ยว ควรใช้ในกรณีที่ช่องทางแคบเท่านั้น ในระหว่างการขับขี่ผู้นำขบวนสามารถสั่งเปลี่ยนรูปขบวนได้โดย ชูสองนิ้วขึ้นสูงๆ หมายถึงให้ขี่แบบสลับฟันปลาสองแถว ถ้าชูนิ้วชี้นิ้วเดียวขึ้นสูง หมายความว่าให้ขี่แบบแถวเรียงหนึ่ง
naja  2010-09-21 04:37:49      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #6
6. ความเร็วที่ใช้ ในการเดินทาง
ความเร็วในการเดินทางควรจะใช้ให้เหมาะสม กับสภาพการจราจรในขณะนั้น ไม่ขี่รถเร็ว หรือ ช้าเกินไป และ ควรอยู่ในช่องทางที่เหมาะกับความเร็วที่ใช้ และรักษาความเร็วเพื่อไม่ให้ขบวนขาด เนื่องจากจะทำให้มีรถยนต์เข้ามาแทรกกลางขบวน ทำให้อาจเกิดอันตรายได้ ผู้นำขบวนต้องหมั่นเช็ค ว่าทั้งขบวนสามารถเดินทางไปด้วยกันที่ความเร็วเท่าไหร่ หากมีขบวนขาด ผู้นำขบวนควรจะต้องลดความเร็วลง หรือ จอดรอ เป็นระยะๆ การขับขี่รถกับเพื่อนๆ ควรจะรักษาระยะที่สามารถมองเห็นรถที่ตามมาจากกระจกส่องหลัง สำหรับผู้ตามหากไม่สามารถทำความเร็วให้ทันรถคันหน้าได้ ให้ขี่รถด้วยความเร็วที่เราคิดว่าปลอดภัยที่สุด อย่าฝืนเปิดคันเร่งตามเพราะจะทำให้เราไม่สามารถควบคุมรถได้ในบางกรณี ผู้นำขบวนเมื่อเห็นขบวนขาดก็จะชลอความเร็วลง และ ปรับความเร็วในการเดินทางที่เหมาะสมต่อไป

naja  2010-09-21 06:58:30      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #7
7. การขับขี่รถผ่านเขตชุมชน
ในการเดินทางบางทริปอาจจะมีเส้นทางที่จะต้องผ่านชุมชน ควรต้องลดความเร็วลง พึ่งระลึกว่ารถบิ๊กไบค์คันใหญ่ๆที่วิ่งผ่านชุมชนนั้น เสียงจากท่อไอเสีย อาจจะสร้างความรำคาญ หรือเป็นจุดสนใจให้คนออกมามุงดู โดยเฉพาะเด็กๆ ซึ่งอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ รถขนาดเล็กทั้งมอเตอร์ จักรยาน สามล้อ หรือ รถเข็น รวมทั้งคนเดินถนน และสัตว์เลี้ยงต่างๆในเขตชุมชนนั้นๆ เป็นสิ่งที่มีเป็นประจำวัน แต่ขบวนรถบิ๊กไบค์เป็นสิ่งที่แปลกปลอมในชีวิตความเป็นอยู่ของเขา ดังนั้นเราควรจะต้องใช้ความระมัดระวังกับวิถีชีวิตแบบของเขา ซึ่งเขาอาจจะข้ามถนนโดยที่ไม่มองก่อน หรือ ขี่รถย้อยศร เป็นต้น ในการขี่รถผ่านชุมชนควรแสดงความเป็นมิตรโดยการขี่รถให้ช้าๆ อาจจะมีการโบกมือทักทายเด็กตัวน้อยๆข้างทางด้วยก็ได้
naja  2010-09-21 07:50:13      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #8
8. การขับขี่รถผ่านสัญญาณไฟจราจร
ในระหว่างที่ผ่านชุมชน ขบวนอาจจะผ่านสัญญาณไฟจราจร ผ้นำขบวนต้องกะเวลาให้ดีว่า ขบวนทั้งหมดสามารถผ่านได้หรือไม่ อย่าพยามเร่งความเร็วเพื่อให้หัวขบวนผ่านได้ เพราะท้ายขบวนจะไม่พ้นอาจจะกลายเป็นผ่าไฟแดง ซึ่งเป็นที่มาของอุบัติเหตุ ถ้ามีบางส่วนของขบวนติดไฟแดง ให้หัวขบวนหาที่ที่ปลอดภัย สามารถมองเห็นได้ง่ายจอดรอ เมื่อขบวนหลังผ่านไฟแดงมาแล้วให้ตั้งขบวนเดินทางต่อ ไม่ควรจะไปจอดรถบล๊อกถนนอีกฝั่งในขณะที่สัญญาณฝั่งเราเป็นไฟแดง
naja  2010-09-21 04:45:18      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #9
9. การใช้สายตา
ในการขับขี่รถในชุมชน การใช้สายตาต้องกว้างและไกลกว่าปกติ ควรมองด้านข้างทั้งซ้าย และ ขวา กวาดสายตาไปกว้าง เพราะอาจจะมีรถอื่นที่ไม่เห็นขบวน หรือคนอาจวิ่งข้ามถนน หรือรถเปลี่ยนช่องทาง ทำให้ชนกับรถในขบวนได้ ก่อนที่จะเปิดคันเร่งออกรถทุกครั้ง ตามสี่แยกหรือชุมชนแออัด เช่น บริเวณ ตลาด หัวมุมถนน ควรจะต้องมองผู้ร่วมทางอื่นๆให้แน่ใจว่าไม่มีใครอยู่ในแนวเส้นทางที่เราจะไป ไม่ควรวิ่งสวนเลนส์ ในระหว่างที่การจราจรติดขัด
naja  2010-09-21 06:45:21      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #10
10. การจอดรถบนไหล่ทาง
ในกรณีที่มีความจำเป็นต้องจอดรถพักขบวนบนถนน ควรจะจอดให้ชิดขอบทาง รถที่วิ่งตามมาจะต้องวิ่งผ่านคันหน้าไป แล้วไปจอดต่อด้านหน้า การเข้าจอดแบบนี้จะทำให้รถทุกคันมีระยะเพียงพอในการหยุดรถ การจอดต่อหลังจะทำให้รถคันท้ายๆมีระยะเบรคที่สั้นลง ซึ่งอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุชนท้ายกันได้
naja  2010-09-21 04:32:06      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #11
11. บทสรุป
การเดินทางไปในสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ สิ่งที่พึงระลึกเสมอคือ เรื่องของเสียง ความเร็วของรถ การรักษาความสะอาด และเคารพสถานที่ที่เราแวะไป ซึ่งควรจะต้องปฎิบัติอย่างเคร่งครัด การขี่รถออกทริปเป็นการเดินทางท่องเที่ยวอีกแบบหนึ่ง ดังนั้นไม่ควรจะขี่รถแข่งกันบนถนน

หลังจากกลับจากทริป เมื่อถึงบ้านแล้ว ควรมีการแจ้งผู้ร่วมเดินทางว่า ถึงบ้านโดยปลอดภัย เรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะเป็นการปิดทริปลงโดยสมบูรณ์

เคยมีคนถามว่าขี่มอเตอร์ไซด์เที่ยวกับ ขับรถยนต์เที่ยว ต่างกันตรงไหน

มีคำตอบหนึ่งที่ผมชอบคือ ขับรถยนต์เที่ยวจะสนุกเมื่อตอนไปถึงที่หมาย แต่การขี่รถมอเตอร์ไซด์ท่องเที่ยว เราสนุกตั้งแต่ออกเดินทาง หรือก่อนออกเดินทางด้วยซ้ำไป


ขอให้สนุกกับการขี่รถท่องเที่ยวกับเพื่อนๆกลุ่มใหม่กันทุกคนครับ

เรียบเรียงโดย naja
naja  2010-09-24 01:41:47      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #15
สุดยอดบทความเลยครับ เป็นเรื่องสำคัญจริงๆ
PalmBeach  2010-09-22 05:54:58      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #16
" การขี่รถมอเตอร์ไซด์ท่องเที่ยว เราสนุกตั้งแต่ก่อนออกเดินทาง "
เห็นด้วยที่สุดครับ..บางทริปตื่นเต้นที่จะได้ไป สะดุ้งตื่นก่อนนาฬิกาก็มี...
pat1200  2010-09-22 07:41:40      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #17
ผมก็ชอบท่อนนี้จัง "แต่การขี่รถมอเตอร์ไซด์ท่องเที่ยว เราสนุกตั้งแต่ออกเดินทาง หรือก่อนออกเดินทางด้วยซ้ำไป " ซึ้งตอนนี้ทุกคนที่อยากไปbig trip 2010 ก็กำลังสนุกกับการสนทนา กันในเวป และทางเสียงตามสาย
Nong_Big bird  2010-09-22 08:40:34      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #18
ชัดเจน ครับ
ขอบคุณครับ
Heavymetal  2010-09-22 08:50:34      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #19
:-D มีประโยชน์
PEPSI  2010-09-23 05:25:57      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #21
นี่คือหนึ่งในบทความที่ผู้เรียบเรียง บรรจงถ่ายทอดมาจากประสบการณ์จากการขับขี่รถ มาอย่างยาวนาน บทความนี้ดีมากสำหรับผู้ที่เริ่มต้นในการขับขี่รถจักรยานยนต์ท่องเที่ยวทั่วไทยและยังรวมไปถึงมือเก่าและเก๋า ได้กลับมาทบทวนฝึกฝนให้เกิดความความคุ้นเคยเป็นประจำทุกครั้งในการขับขี่ เพราะมันจะสร้างวินัยในการขับขี่ให้กับตัวเราและกลุ่มที่เราขี่ไปด้วยกัน รวมถึงความปลอดภัยที่จะได้อีกด้วย ขอบคุณน้าจา ที่ช่วยถ่ายทอดและเผยแพร่บทความนี้ให้กับเพื่อนๆชาวไบเกอร์ทุกคน
เพ้งปากช่อง  2010-09-24 01:40:16      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #22
สุดยอดเลยครับ ขอบคุณสำหรับความรู้เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่จะให้การขับขี่ของพวกเรามีความสุขกันมากขึ้น รวมทั้งยังทำให้ผู้ร่วมเส้นทางทั้งหมดใช้ทางร่วมกันอย่างเอื้ออาทรด้วยกันครับ
ขอบคุณมากครับ
linejaa  2010-09-24 01:31:47      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #23
หล่อๆทั้งนั้นเลย(ทั้งรถและคน)

ของผมสนุกตั้งแต่ออกกำหนดการแล้วครับน้าจา
adisak  2010-09-24 06:56:23      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #24
อ่านแล้วคิดถึงบิ๊กทริป.....
nunetz_rc51  2010-09-24 07:54:33      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #25
บทความดีมากเลยครับ
mrsunday  2010-09-25 01:55:42      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #26
ขอบคุณครับสำหรับประสพการณ์ดีๆ ที่นำมาถ่ายถอดให้
เป็นประโยชน์มากๆครับ
n-oo-m  2010-09-25 04:14:33      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #27
ได้ความรู้มากมายคับ ขอบคุณคับ.........นี่เป็นกระทู้แรกผมเลยอิอิ สมาชิกใหม่รายงานตัวคับผม
megabikez  2010-09-25 08:53:01      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #28
ขอบคุณความรู้ที่ดีๆ ผมคนนึงที่ยังไม่เคยออกทริปรอแต่เวลานั้นที่จะมาถึงอย่างใจจดใจจ่อ เข้ามาอ่านที่storm บ่อยครั้งและทุกครั้งก็อิจฉาพี่ๆที่ได้เดินทาง คงมีสักวันที่ผมจะได้ร่วมขบวนกับ big trip
isara  2010-10-02 15:36:18      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #29
ชอบทุกหัวข้อครับ..ชอบหัวข้อที่ 6 เป็นพิเศษ...อิ..อิ..อิ..
ขอบคุณน้าจาสำหรับข้อมูลดีๆ...

jackjack  2010-10-12 08:01:40      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #30
ปีหน้าหลังจากที่ซุกหัวนอนหลังใหม่เสร็จ ผมคงมีเวลาอยู่กับมอเตอร์ไซด์มากขึ้น คงได้ขี่รถกินลมชมวิว แบบชิวๆบ่อยๆเกือบทุกอาทิตย์ ถ้ามีน้องๆเพื่อนๆมือใหม่ หรือ มือเก๋าที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศ อยากหาเพื่อนที่ชอบสองล้อ คอเดียวกัน ก็เรียนเชิญได้ทุกคน
naja  2010-11-01 02:09:04      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #31
ขอบคุณครับ ได้ความรู้มากๆครับ
tito_yl  2012-07-08 04:17:52      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #32
ขอบคุณครับ น้า
seesar  2016-12-14 16:23:43      แจ้งลบความเห็น


Privacy & Policy Statements Advertisement About StormClub.com Contact Stormclub.com