Register LOGIN Forget password ?
Webboard :: FAQ :: 00007678
สงสัยในเรื่องของ ABS จริงๆๆ
สงสัยมาก็พักใหญ่แล้วล่ะครับ ไอ้เรื่อง ABS เนี่ย ไปอ่านมาจากหลายๆที่ เห็นเขียนไม่ค่อยจะเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันซะเท่าไหร่ ไอ้ครั้นไปอ่านภาษาอังกฤษ ก็งูๆปลาๆไม่รู้เข้าใจผิดเข้าใจถูกกันแน่ เลยขอรบกวนถามจั๊กหน่อยว่า

-กลไก ABS เนี่ยมันทำงาน(จริงๆ)ยังไง

- ความแตกต่างกันขนาดไหนในแง่คุณภาพ กลไก ในแต่ละเจ้าที่ผลิตประเคนใส่รถกันมา (เพราะเห็นว่าขนาดคาลิเปอร์เบรคแต่ละเจ้า ยังทำงานต่างกัน ABS ก็คงเป็นเช่นนั้นใช่มั้ย ??)

-มีระบบอื่นที่คล้ายคลึงกับระบบนี้หรือไม่

- ความสำคัญ ความจำเป็นของระบบนี้ต่อรถมอเตอร์ไซค์ (คือลึกๆแล้ว พอรู้ล่ะว่ามันจำเป็น ไม่งั้นคงไม่สร้างกันมา ใช่มะ)

- ไหนๆก็ไหนๆแอบถาม เรื่องการทำงานของ traction control ในรถของค่ายใบพัดสีฟ้าด้วยละกัน สงสัยว่าตัวระบบมันรู้ได้อย่างไรว่า จะต้องทำงานไม่ทำงาน มันเช็คจากอะไร

เท่านี่ก่อนละกันครับ
บอล Hard Gay
Share |
Ball HG.    time: 2009-01-30 07:08:33   แจ้งลบกระทู้

ความเห็นที่ #2
ใช้อย่างเดียวจนเดี๋ยวนี้ก็ยังไม่รู้ว่ากลไกการทำงานจริงๆเป็นเช่นไร(รู้แค่ว่ากำเบรคแล้วไม่กลิ้ง) แค่เพียงหนึ่งครั้งที่เจ้าABS ทำงานในขณะที่วิ่งอยู่บนถนนหลวงมันคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปจริงๆ
nunetz_rc51  2009-01-30 07:50:42      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #3
หลักการทำงานที่ถูกต้องเด๋วต้องให้ ท่านผู้เป็นเจ้าของรถที่มีระบบมาแสดงความเห็น ...

คร่าว ๆ เอาไอ้นี้ไปดูเล่นก่อน ...



ไม่ใช่ Hard Gay น่ะจ๊ะ ...

smart_ta  2009-01-30 08:26:07      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #4
ABS=Anti-Lock Barking System เป็นระบบที่คิดขึ้นมาเพื่อป้องกันการล๊อกของล้อเมื่อใช้เบรกอย่างรุนแรง จนล้อไม่สามารถยึดจับถนนต่อไปได้ทำให้เกิดอาการลื่นไถล ซึ่งทำให้รถเสียการทรงตัวและระยะเบรกยืดยาวออกไป ด้วยแรงของมวลเฉื่อย* อันนี้คือหลักการเบื่องต้นนะครับ และข้อสำคัญอย่าไปสับสบกับ TRAC หรือ TC ที่มาจาก TRACTION CONTROL SYSTEM อันหลังนี้เป็นระบบที่ป้องกันการหมุนฟรีเมื่อเราเพิ่มคันเร่งจนล้อไม่สามารถยึดจับถนนได้ ทำให้เสียกำลังขับเคลื่อนจากการหมุนฟรีอยู่กับที่ของล้อ ระบบ 2 ตัวนี้เป็นคนละระบบกันครับไม่เกี่ยวกัน... (ผมเห็นมีคนมั่วเป็นระบบเดียวกันมาเยอะแระ แต่ไม่อยากขัด -*- )

ในด้านเทคนิคของ ABS นั้นแต่ละผู้ผลิตจะมีเทคโนโลยี่แตกต่างกันออกไปในรายละเอียดซึ่งต้องว่ากันเป็นรายๆไปครับ...ซึ่งโดยหลักแล้วมีสิ่งที่คล้ายๆ กันประการหนึ่งคือชุดอุปกรณ์ จับการหมุนของล้อ ที่เรามักจะเห็นเป็นเฟืองหรือแผ่นจานเซาะร่องเล็กๆ ตรงดุมล้อ กับตัวเซ็นเซอร์ ที่จะตรวจจับการหมุนของล้อ หลักการทำงานง่ายๆก็คือ ถ้าความเร็วการหมุนของล้อไม่สัมพันธ์กับการลดความเร็วของรถ ระบบจะไปลดกำลังเบรกลงเป็นจังหวะเพื่อให้ล้อหมุนต่อไปได้แล้วปล่อยกำลังเบรกเต็มที่อีกครั้งเมื่อล้อเริ่มหมุน ดังนั้นในทางปฏิบัติ เวลา ABS ทำงานมันจึงเป็นลักษณะ จับ-ปล่อย ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ จนกว่าจะหยุดการใช้เบรกหรือรถหยุดจริงๆ

รายละเอียดทางเทคนิค คงต้องให้คนที่รู้เรื่องระบบการทำงานของแต่ละแบรนด์มาสาธยายครับ... ส่วนที่ผมเคยลองกับทั้ง BMW ส่วนมากจะทำงาน "ตื้น" กว่าของรถญี่ปุ่นของรถญี่ปุ่นส่วนใหญ่ต้องกดเบรกหนักจริงๆหรือถนนเปียกมันถึงจะทำงาน ส่วนของ BMW บางทีกดเบรกไปได้ครึ่งหนึ่งมันก็ "สั่นๆ"เตือนที่ก้านเบรกแล้ว โดยเฉพาะล้อหลัง ซึ่งจะว่าไปผมก็ว่าดีเพราะไม่จำเป็นต้องใช้ทักษะในการคุมเบรกมากนัก เพียงแต่คนที่ฝึกฝนมาดีอาจจะรู้สึกขัดหูขัดตาหน่อย ซึ่งเรื่องนี้แล้วแต่คนชอบครับ... :)

จริงๆ ถ้ามีเวลาวันไหนจะไปขอเอกสารจาก BMW มาเขียนเป็น Scoop ให้เป็นเรื่องเป็นราวเหมือนกัน ดีไม๊จ๊ะ " น้องบอล" และ "น้องเน".... อิ อิ
webmaster  2009-01-30 09:17:47      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #5
เข้ามาเสริมนิดหน่อย.....ทฤษฎีบ้าง ไม่ ทฤษฎีบ้าง...

ปัญหาหลักๆ ที่เกิดขึ้นเวลาที่มีการเบรคห้ามล้ออย่างรุนแรงจนทำให้ล้อล็อคนั้น หน้ายางที่กำลังทำหน้าที่สัมผัสพื้นซึ่งโดยปรกติจะมีแรงยึดเกาะและแรงเสียดทาน (ตามหลักฟิสิกส์) จะไม่สามารถทำการยึดเกาะได้เลย เนื่องจากความร้อนที่สูงมากเกินไป ทำให้เกิดอาการที่เรียกว่าสไลด์นั่นเอง ... อีทีนี้ พอเกิดอาการสไลด์แล้ว...สิ่งที่จะมาช่วยให้หยุดรถอย่างปลอดภัยก็เห็นจะมีแต่ พ่อแก้วกับแม่แก้ว เท่านั้น ที่จะมาช่วยลูกช้างได้....(ตอนนั้นหลวงพ่อทั้งหลายก็คงเผ่นกลับวัดกันหมดแล้ว...)


ก่อนที่กูรู จะมาอธิบายการทำงานของ ABS ของแต่ละแบรนด์ ... จะขออนุญาติเพิ่มเติมสิ่งที่ท่าน wet master ได้อธิบายคร่าวๆ ไว้หน่อยครับว่า...หลักการของ ABS คือการจับและปล่อยให้มีการเปลี่ยนหน้ายางที่สัมผัสพื้นถนนเพื่อให้หน้ายางที่ความร้อนกำลังเพิ่มสูงขึ้นมากจนจะหมดความสามารถในการยึดเกาะได้หมุนออกไป เพื่อให้หน้ายางใหม่หมุนลงมาทำหน้าที่ในการเบรคแทน...แต่เป็นการ จับๆ ปล่อยๆ ที่ไวมากกว่าที่มือเราจะทำเองได้ เอาเป็นว่า มากกว่า 10 ครั้ง/วินาที สำหรับ ABS ยี่ห้อดีๆ


โดยส่วนตัว....จากที่ได้เคยเห็นจะจะกับตาตัวเองจาก Riding Course ในส่วนของสถานีเบรค... เปรียบเทียบกันจะจะ ระหว่างรถ 2 คัน .... คันแรก คือ sport แรงสูงยี่ห้อหนึ่งซึ่งน้ำหนักตัวรถอยู่ที่เพียง 160-170 กก. ตามสเป็ค และเป็นยี่ห้อที่ไม่เคยมีประวัติด่างพร้อยในเรื่องของระบบเบรค และหนำซ้ำมักจะได้รับการยกย่องเสมอว่าเป็นยี่ห้อที่มีเบรคติดรถมาจากโรงงานที่ยอดเยี่ยมยี่ห้อหนึ่งทีเดียว......

ส่วนคันที่ 2 เป็น รถจากค่ายใบพัดสีฟ้า น้ำหนักตัวไม่มีทางต่ำกว่า 250 กก. แน่นอน แต่มี ABS มาให้... ทั้งสองคัน ล้วนขับขี่ด้วยผู้เข้าร่วมกิจกรรม ซึ่งก็มีทักษะที่ไม่ต่างกันมาก ... ขี่มาด้วยความเร็วคงที่ที่ 60 กม./ชม. และเมื่อถึงระยะเบรค ก็ให้ทั้งสองคันทำการกดเบรคทั้งหน้าและหลัง(โดยไม่ให้เปลี่ยนเกียร์ลงต่ำ) เพื่อให้คุ้นเคยกับการเบรคกระทันหันและการควบคุมรถ.....ไม่ได้เป็นการแข่งหรือทดสอบ..แต่เป็นสถานีฝึกทักษะในการใช้เบรคและควบคุมรถครับ...


...ผลปรากฏว่า...รถคันอ้วนๆ หนักๆ ที่มี ABS ใช้ระยะเบรคเพียงแค่ประมาณ 1 ใน 3 ของรถคันแรก ที่น้ำหนักน้อยกว่า และผมเองที่ยืนอยู่ตรงนั้นพอดี...มองเห็นได้ชัดเจนตอนที่ระบบ ABS กำลังทำงาน... จะจะครับ


สรุปโดยรวม

หากคุณมีกำลังเงินที่เพียงพอที่จะเลือกออฟชั่นของรถคันเป้าหมายที่ต้องการในส่วนของ ABS ก็ต้องบอกว่า เพิ่มเงินไปเถอะครับ เพราะเมื่อถึงเวลาที่คุณต้องการใช้แล้ว มันจะช่วยคุณได้มากทีเดียว ...ไม่ได้ออกแรงเชียร์รถยี่ห้อหนึ่งยี่ห้อใดนะครับ โปรดอย่าเข้าใจผิด เพราะปัจจุบันรถหลายๆ ค่ายก็มีออฟชั่น ABS มาให้เลือกซื้อกันมากมาย....


สำหรับ ระบบ Traction Control เดี๋ยวให้ท่านอื่นที่รู้รายละเอียด และ เคยได้ผ่านการใช้งานระบบมันจริงๆ มาแล้วมาอธิบายให้ฟังครับ
jackie  2009-01-30 09:53:20      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #6
อ้อ...เพิ่มเติมอีกกะนิดนึง...

ABS จะช่วยได้อย่างมากมาย...โดยเฉพาะ ในสภาพพื้นผิวถนนห่วยๆ เช่น สกปรก เปียก ลื่น ฯลฯ เพราะ อันนี้ ไม่ต้องเบรคจนยางร้อน ก็เบรคไม่ค่อยอยู่ๆ แล้ว....
jackie  2009-01-30 09:57:24      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #7
จากประสบการณ์ที่เคยได้ทดสอบ และเกือบประสบอุบัติเหตุแต่รอดมาได้เพราะ ABS

จากที่เคยได้ทดสอบรถของ BMW มันล้มยากจริงๆถ้าจะให้ล้มจากการเบรค ที่ลองมาด้วยความเร็วพอสมควรแล้วเอียงรถแล้วกดเบรคหลังเต็มๆ ยังไม่ล็อค ไม่สไลค์ รถเสียอาการน้อยมาก
และอีกครั้งที่ได้พึ่งผลบุญของวิศวกรผู้คิดคนมันขึ้นมา ตอนนั้นกลับจากเชียงใหม่ พอเลยตากมาหน่อย ความเร็วน่าจะ 160-170 ได้มั้ง มีรถอีแต๋น วิ่งเลาะสวนทางมาด้านซ้าย อยู่ดีๆสูเจ้าหักเลี้ยวออกมาเพื่อจะข้ามไปอีกฝั่ง ท้ายก็ยาว หน้าก็ยาว ไม่พอ พวกคงตกใจ เบรคเม่งกลางถนนอีก กดเบรคเต็มที ไม่น่าเชื่อ ระยะเบรคเหลืออีกซัก 30 เมตรได้มั้ง ถ้าไม่มี ABS นะ ตกใจขนาดนั้น ล้อหน้าคงล็อค ตั้งแต่เริ่มกำเบรคแล้วล่ะ ป่านนี้ไปเกิดใหม่แน่ๆ
Home Alone  2009-01-30 11:14:56      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #8
ABSทำงานอย่างไง?

หลักการทำงาน อธิบายแบบชาวบ้านง่ายๆโง่ๆเลย คือ เมื่อล้อล๊อค มันจะ เปลี่ยนจากการล๊อคมาเป็นการ จับ-ปล่อยเป็นจังหวะ โดยใช้เซนเซอร์แม่เหล็ก วัดที่จานเบรค ว่าล๊อคหรือยัง

ความแตกต่างกันขนาดไหนในแง่คุณภาพ กลไก

U got what U pay ตัวABSเอง ถ้าทำงานเดี่ยวๆโง่ๆ แทบจะไม่มีประโยชน์ มันจะต้องทำงานควบคู่กับระบบ ช่วงล่างที่ดี ระบบลิ้งเบรคหน้าหลังที่ดี

มันก็แบ่งอีกเป็นABSแท้ๆ(ผมเรียกแบบนี้) ที่ใช้ระบบเซอร์โวผ่อนแรง หรือใช้ระบบควบคุมอิเล็คทรอนิกมาเป็นตัวจับ-ปล่อยเบรค ซึ่งมันจะทำให้ระยะเบรคสั้นลงได้จริงๆ อย่าที่ติดมากะBMW หรือทัวริ่งของฮอนด้า

กะอีกแบบคือABSปลอมๆ คือพวกที่ใช้วาล์วไฟฟ้า มาเป็นตัวตัดการทำงานของน้ำมันเบรค ให้จับ-ปล่อย ซึ่งทำให้ไม่ละเอียดและความสามรถโดยรวมแย่ลง ขอไม่ยกตัวอย่างแล้วกัน เดี๋ยวกลุ่มลูกค้ามีฐานะเค้าจะโกรธ

-มีระบบอื่นที่คล้ายคลึงกับระบบนี้หรือไม่

ไอ้ที่ผมว่าปลอม เค้าก็ยอมรับว่ามันเป็นABS เพียงแต่เค้าใช้ในรถยนต์รุ่นแรกๆ (15ปี++) ซึ่งส่วนตัวผมว่าไม่มีจะเวิร์คกว่านะ^_^

- ความสำคัญ ความจำเป็นของระบบนี้ต่อรถมอเตอร์ไซค์

ถ้าเป็นพวกดีๆ มีประโยชน์มากครับ เอาแค่แง่ทักษะนะ อย่างที่ผมเคยบอกคือมันเป็น "ประสบการณ์ที่คุณใช้เงินซื้อมาได้" ไม่ต้องมานั่งเรียนรู้เอง

ถ้าถามว่าสิ่งที่ทำให้BMWระยะเบรคสั้น มาจากABSใช่ไหม?

ผมบอกได้เลยว่าไม่ใช่ มันมาจากระบบลิ้งเบรคที่ฉลาดมากๆ แถมด้วยช่วงล่างคุณภาพดีของมันต่างหาก ABSน่ะมันมีใว้เมื่อ สองอย่างที่พูดมามันเอาไม่อยู่แล้ว

- ไหนๆก็ไหนๆแอบถาม เรื่องการทำงานของ traction control ในรถของค่ายใบพัดสีฟ้าด้วยละกัน สงสัยว่าตัวระบบมันรู้ได้อย่างไรว่า จะต้องทำงานไม่ทำงาน มันเช็คจากอะไร

ระบบจะรู้ว่าล้อหลังฟรี ผมเอาว่าน่าจะมาจากเซ็นเซอร์วัดการหมุนที่ล้อหน้ากับล้อหลังนะ(ปรกติจะเป็นแบบนั้น) คือถ้าค่าที่อ่านได้ล้อหลังหมุนใวกว่าล้อหน้า มันก็จะส่งสัญญานไปที่ลิ้นปีกผีเสื้อ ให้ลดองศาการเปิด ทำให้รอบเครื่องลดลง(นิดๆ) ทีนี้ล้อหลังก็จะหมุนช้าลง


ผมขอตอบเท่าที่รู้แค่นี้แล้วกันครับ ผิดถูกอย่างไรก็ขออภัยด้วย พอดีผมมันประสบการณ์น้อยน่ะ^_^
Mangza  2009-01-30 15:41:27      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #9
อือหือมันดีจริงๆครับ แต่วาสนายังไม่ถึง เลยไม่ได้ใช้เลยงะกระผม
scubaop  2009-01-31 13:15:56      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #10
น่าใช้มากมายย ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆครับ
Ball HG.  2009-02-01 05:13:34      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #11
แล้วถ้าต้องการจะเบรครถที่มีระบบ เอบีเอส ให้ล็อค(ล้อหลัง) ในกรณีที่ต้องการให้รถสไลด์ล่ะครับ จะทำได้ไหม ส่วนตัวยังไม่เคยได้ลองใช้น่ะครับ อยากทราบไว้
Trafficker  2009-02-01 11:16:50      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #12
รถมอเตอร์ไซค์บางรุ่นสามารถ เปิด/ปิดระบบ ABS ได้ครับ
ส่วนในกรณีที่ต้องการสไลด์ล้อหลังเท่าที่เคยสัมผัสมาจะเกิดจากการเปลี่ยนเกียร์มิได้เกิดจากการใช้เบรคหลังจนล้อหลังล๊อคครับ
nunetz_rc51  2009-02-02 06:54:46      แจ้งลบความเห็น


Privacy & Policy Statements Advertisement About StormClub.com Contact Stormclub.com